ประโยชน์ของเมลาโทนินที่คุณยังไม่รู้
“เมลาโทนิน” หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อของ “ฮอร์โมนแห่งการนอนหลับ” มักได้รับการยอมรับว่ามีประโยชน์ในการส่งเสริมการนอนหลับ นอกจากนี้ฮอร์โมนนี้ยังมีประโยชน์อื่น ๆ ที่มากกว่าการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนอนหลับ เช่น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา และยืดอายุ ในผู้ป่วยมะเร็ง โดยเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และต้านการอักเสบ ที่ช่วยป้องกันโรคแทรกซ้อนต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมไปถึง โรคอัลไซเมอร์ , โรคพาร์คินสัน, โรคหลอดเลือดสมอง , ไมเกรน และอื่น ๆ อีกมากมาย
เมลาโทนิน – สัญญาณแห่งความมืด
เมลาโทนินจะเริ่มหลั่งในช่วงเวลาหลังจากพระอาทิตย์ตกดิน มีการหลั่งสูงสุดในช่วงเวลากลางคืน และค่อยๆ ลดลงอย่างช้าๆ ระดับเมลาโทนินที่ลดลงมักพบได้ในหลายกลุ่ม เช่น คนที่อายุ 55 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ และเด็กออทิสติก ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการลดลงของเมลาโทนินในผู้ใหญ่ที่มีอายุมากขึ้น มีส่วนทำให้เกิดกระบวนการชราภาพ และการเสื่อมสภาพของร่างกาย
ประโยชน์ต่อสุขภาพของเมลาโทนิน
1.) เสริมภูมิคุ้มกันและต้านการอักเสบ เมลาโทนินมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและช่วยเพิ่มการรักษาบาดแผล ผลการศึกษาพบว่า เมลาโทนินมีส่วนช่วยให้ระดับ Oxidative stress ลดต่ำลง 2.) การป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด การศึกษาในสัตว์ทดลอง พบว่า เมลาโทนินจะช่วยป้องกันสารอนุมูลอิสระต่อการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหัวใจ ลดความการเกิดโรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหลอดเลือดหัวใจ นอกจากนี้ เมลาโทนิจะยับยั้งการสร้างคอเลสเตอรอล (Cholesterol) ได้ถึง 38% และช่วยลดการสะสมของแอลดีแอล (LDL) ลง 42% ช่วยลดความดัน พบว่าหากคอเลสเตอรอลในเลือดลดลง 10-15% จะส่งผลให้ความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบลดลง 20-30% ตามมา 3.) การป้องกันและรักษาไมเกรน การวิจัยล่าสุดพบว่าเมลาโทนิสามารถช่วยลดความถี่และความรุนแรงของไมเกรนทั้งในผู้ใหญ่และเด็ก ผู้ใหญ่ที่เป็นไมเกรนมีระดับเมลาโทนินลดลงในวันที่ปวดไมเกรนเทียบกับวันที่ไม่ปวดไมเกรน ผู้ที่เป็นไมเกรนเรื้อรังมีระดับเมลาโทนินต่ำกว่าคนปกติ พบว่าเมลาโทนินจะช่วยลดความถี่, ระยะเวลา และความรุนแรงของอาการไมเกรนลดลงได้อย่างชัดเจน 4.) การรักษาโรคมะเร็ง หนึ่งในการใช้เมลาโทนิที่สำคัญที่สุด คือ การต่อสู้กับโรคมะเร็งที่หลากหลาย เมลาโทนิจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตใน 1 ปีได้ถึง 34% นอกจากนี้เมลาโทนิน ยังสามารถช่วยลดความเป็นพิษของการรักษาด้วยเคมีบำบัด ช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตและป้องกันผลข้างเคียงจากยาเคมีบำบัด 5.) การรักษาโรคอัลไซเมอร์ ความรุนแรงของโรค ระบบประสาท และโรคอัลไซเมอร์ สอดคล้องกับการลดลงของการผลิตเมลาโทนิน การรับประทานเมลาโทนินที่ควบคู่กับ ยา Alzheimer ให้ผลในเชิงบวกต่ออาการหลงลืม และการช่วยให้นอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่เป็นโรคนอนไม่หลับ นอกจากนี้ เมลาโทนินช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยด้านความตื่นตัว การรับรู้ และการประกอบกิจกรรมในตอนกลางวัน มีผลให้ช่วยลดอาการซึมเศร้า และลดอาการหลงๆลืมๆได้ 6.) การรักษาโรคเบาหวานประเภท II ผลการวิจัยระบุว่ามีการเชื่อมโยงกันระหว่าง การผลิตเมลาโทนินที่ลดลง กับความผิดปกติของอินซูลิน น้ำตาลกลูโคส การเผาผลาญไขมัน และความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ พบว่าการรับประทานเมลาโทนินไม่เพียง แต่ช่วยป้องกันการเพิ่มของน้ำหนักตัวเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความต้านทานต่ออินซูลิน และแล็ปทิน ( สัญญาณที่จะหยุดกิน) และการรับประทานเมลาโทนินต่อเนื่อง 2 เดือน จะมีผลในการช่วยลดไขมัน (LDL-C - cholesterol) และลดความดันโลหิตในผู้ป่วยโรค Metabolic Syndrome สรุปได้ว่า เมลาโทนินมีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการรักษาปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น การนอนหลับ Jetlag เบาหวานประเภท II โรคความจำเสื่อม และอื่น ๆ อีกมากมาย
Comentários